จากการตรวจสอบภายในห้องพบยา "ไดซีแพม" วางอยู่บนโต๊ะและบนเตียงนอนจำนวนหลายเม็ด และพบประวัติแม่ป่วยเป็นโรคประสาท อาจเกิดจากความเครียดจัด แต่หาทางออกที่ผิดวิธี "
เวลา 02.00 น. (12-09-60) คืนที่ผ่านมา นางยลวดี สายเครือคำ อายุ 52 ปี ได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อขอความช่วยเหลือตนเอง เนื่องจากกินยาเกินขนาด ตำรวจจึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้ไปนำตังส่งโรงพยาบาล เมื่อกู้ภัยไปถึง จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณชั้นสาม เป็นห้องเช่าย่านงามวงศ์วาน นางยลวดีจึงบอกว่า ลูกสาวตนเสียชีวิตแล้ว และตนเองเป็นคนทำให้ตายด้วยการใช้เชือกผูกคอ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงประสานตำรวจเข้าตรวจสอบ พบนางยลวดีอยู่ในอาการสะลึมสะลือ ด้วยฤทธิ์ยาที่กินไปแล้วตามด้วยเบียร์ ในห้องเช่ายังพบจดหมายเขียนถึงพี่สาวให้ช่วยเหลือ ถ้ามีเหตุเกิดขึ้น นายประมวล สุขาบูรณ์ เพื่อนบ้านบอกว่า พบเห็นแม่ลูกคู่นี้เกือบทุกวัน และมีการพูดกันปากต่อปากว่านางยลวดี เคยขังลูกสาวไว้ในห้อง
ผู้ดูแลห้องเช่าบอกว่า เหตุที่นางยลวดี ขังลูกสาวอายุ 15 ปี ไว้ในห้องก็คงมีเหตุผล เพราะต้องออกไปทำงาน ที่ผ่านมาค่าเช่าห้องเดือนละ 1,800 บาท นางยลวดีได้จ่ายค่าเช่าตรงทุกเดือน จึงตกใจว่าเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้อย่างไร
การชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น ผู้ตายเสียชีวิตมาก่อนหลายชั่วโมง นางยลวดีอาจจะเครียด เนื่องจากต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกเพียงคนเดียว จนทนรับความกดดันไม่ไหว ทำให้ลงมือก่อเหตุ
พ.ต.อ.ดร.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง กระบวนการดำเนินคดีอาญา เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า เมื่อฟังได้ว่านางยลวดี เป็นผู้ลงมือฆ่าลูกสาว ความผิดจึงเกิดขึ้น แต่จะไตร่ตรองไว้ก่อนหรือไม่ ต้องรอผลการตรวจสอบจากแพทย์ ว่านางยลวดีมีอากาศป่วยเป็นโรคจิตหรือไม่ และรู้ตัวหรือไม่ในขณะก่อเหตุ ภายหลังพบประวัติเข้ารับการรักษาอาการที่โรงพยาบาลประสาท