อากาศยานไร้คนขับ (UAV) ฝีมือนักวิจัยไทย
จริงๆแล้ว UAV ในวงการ RC ของไทย มีการทำเล่นกันในระดับส่วนบุคคลมานานแล้วครับ ทำเล่นกันถึงระดับกำหนดเส้นทางการบินล่วงหน้า แล้วบินไปอย่างอัตโนมัติตามที่กำหนด คนบังคับทำหน้าที่แค่ประคองเครื่องตอนบินขึ้นและบินลงแค่นั้น แต่ของกองทัพมันต้องมีความซับซ้อนอะไรมากกว่า เช่น ระบบสื่อสารต้องเข้ารหัสตรวจจับยาก ต้องติดระบบตรวจจับที่ใหญ่กว่า-หนักกว่า-ซับซ้อนกว่าของ RC
สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ สทป. (DTI) ได้จัดแสดงขีดความสามารถของผลงานวิจัยและพัฒนาระบบอากาศยานไร้คนขับ และใช้สำรวจจัดทำแผนที่ภูมิศาสตร์และแผนที่แสดงการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อสนับสนุนกองทัพและหน่วยผู้ใช้ ผ่านการสร้างอุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่เข้มแข็ง ทำให้ประเทศไทยลดการนำเข้ายุทโธปกรณ์จากต่างประเทศ ทำให้ประเทศไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี และเพิ่มหลักประกันด้านความมั่นคงให้กับประเทศ รายละเอียดของข้อมูลที่ได้มีทั้งแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ สามารถนำไปต่อยอดทางธุรกิจได้หลากหลาย ทั้งยังคุ้มค่าทั้งด้านเวลาและงบประมาณในการลงทุน
พลเอกสมพงศ์ มุกดาสกุล ผู้อำนวยการ สทป. บอกว่า ต้องการให้มีวิจัยและพัฒนาโครงการประยุกต์ใช้แผนที่สถานการณ์ร่วมเพื่อจำลองภารกิจช่วยเหลือทางทหารในสถาน การณ์ฉุกเฉิน
ปัจจุบัน มีผลงานวิจัยที่สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศทำการวิจัยและพัฒนาเอง หรือร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 20 โครงการ โดยส่วนหนึ่งได้ส่งมอบให้กับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและเข้าประจำการในหน่วยผู้ใช้แล้ว
นี่คืออากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicle: UAV) พัฒนาโดย สทป. จัดแสดงที่สนมบินขนงพระ (เขาใหญ่) จ.นครราชสีมา
สุดท้ายผมมองว่าการพึ่งพาตนเองได้ถือว่าสุดยอดมาก เช่น โดรน นับเป็นแนวโน้มเทคโนโลยีที่ปฏิเสธไม่ได้ การแข่งขันไม่ได้อยู่ที่ตัวอุปกรณ์ แต่เป็นผลลัพธ์ ที่แม่นยำและได้มาตรฐานมากกว่า ขอให้สถาบันฯ พัฒนาต่อยอดไปเรื่อยๆครับ และขอฝากเรื่องการสนับสนุนคิดค้นเครื่องมืออุปกรณ์อาวุธหรือยานพาหนะให้กับหน่วยงานพื้นที่ภาคใต้ที่ต้องเสี่ยงภัยอยู่ทุกวันด้วย ฝีมือคนไทยไม่แพ้ใครในโลกนี้ ขอให้มีงบประมาณสนับสนุนให้ รับรองก้าวไกลแน่นอนครับ
