ผู้ปกครอง-ชาวบ้านสุดทน! ลุกฮือไล่ ผอ.โรงเรียน

เมื่อเวลา11.30น. โรงเรียนบ้านหนองกัว หมู่ที่9ต.เมืองที อ.เมือง จ.สุรินทร์ ได้มีผู้ปกครองนักเรียน และชาวบ้าน กว่า200คน ลุกฮือถือป้าย มีข้อความต่างๆ นานา อาทิ เช่น เราไม่เอา ผอ.กับเมีย ย้ายด่วน ขับไล่,ถ้าไม่ย้ายเราจะย้ายลูกออกไปเรียนที่อื่น"ออกไป" ,โรงเรียนเน้นการศึกษา หมู่บ้านเน้นการพัฒนา วัดเน้น ส่งเสริมศาสนา เดินขบวนเพื่อต้องการขับไล่ นายเติม ดวงดี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองกัว เนื่องจากเกิดความไม่พอใจ เรื่องอาหารกลางวันเด็กนักเรียน และการเรียนการสอน และเรื่องสหกรณ์โรงเรียน ไม่โปร่งใส ท่ามกลางการ รปภ.เข้ม จากเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทั้งใน และนอกเครื่องแบบ หวิดเกิดเหตุชุนมุน เมื่อผู้สื่อข่าวขอสัมภาษณ์ เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงจาก นายเติม ดวงดี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองกัวกลับเดินหนี พูดจาบ่ายเบียง เพื่อเลี่ยงให้สัมภาษณ์ โดยอ้างว่า เป็นสิทธิ์ ไม่ขอตอบ
ขณะเดียว นายกฤษณุ เหลืองพิบูลย์กิจ นายอำเภอเมืองสุรินทร์ ทราบ และลงพื้นที่รับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้าน พร้อมประสานให้ นายเปโส ขบวนดี รองผู้อำนวยการ สพป.สุรินทร์ เขต1เข้าร่วมรับหนังสือร้องเรียน ทั้งนี้ ชาวบ้านได้ยืนหนังสือร้องเรียนที่สำนัก สพป.สุรินทร์ เขต1หลายครั้ง แต่เรื่องก็เงียบหายไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนสุดที่จะทน ต่างพากันเขียนป้ายข้อความต่างๆ เดินทางประท้วง ขับไล่ในวันนี้ วอนสื่อ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบถึงความโปร่งใส ส่อทุจริต โครงการอาหารกลางวัน การเรียนการสอน ผลการเรียนตกต่ำ และเรื่องสหกรณ์ของโรงเรียน พร้อมนำพยานปากสำคัญ อดีตคนทำอาหารของโรงเรียนที่ถูกไล่ออก หลังนำความจริงไปบอกชาวบ้าน

นางอนงค์ จันทึก ผู้ปกครองนักเรียน กล่าวว่า เรื่องอาหารกลางวัน ตนรู้สึกว่าอาหารกลางวันน้อย ในแต่ละวันแอบมาสังเกตดู พบอาหารจานเดียว เด็กนักเรียนกินกัน4-5คน ดูผิดปกติ จึงร้องเรียนสื่อให้เข้ามาตรวจสอบว่า อาหารกลางวันของโรงเรียนเป็นอย่างไร ในแต่ละวันเด็กนักเรียนกินไม่เคยอิ่ม ปัญหามีมานานเป็นปีๆ แต่ไม่เคยมีใครมาร้องเรียน แต่พอตนมาเจอ สามารถถ่ายภาพ และส่งเรื่องราวร้องเรียนผ่านผู้สื่อข่าว ขอให้ส่งทีมข่าวมาตรวจสอบดูว่า อาหารกลางวันเป็นยังไงต่อจาน แล้วทางโรงเรียนทำไมจานหนึ่งต้องแบ่งกันกินถึง4-5คนยังงี้ ทราบมาว่า งบให้เป็นรายหัว หัวละ20บาท ต่อคน แต่ทำไมแต่ราคาจานหนึ่ง140บาท ต่อจาน เด็กนักเรียนกินได้ถึง7-8คน มันไม่เพียงพอสำหรับเด็กนักเรียน และไม่ยุติธรรมกับเด็ก เงินอุดหนุนโรงการอาหารกลางวันกลางวันจาก อบต.เมืองที นักเรียน183คน เมื่อเราตีราคาของ ข้าวจานนั้น มันแพงเกินไปและไม่เพียงพอกับเด็ก

นางลัดดาวัล พ่อค้า ผู้ปกครองเด็กนักเรียน กล่าวว่า ตนเป็นคนที่สนใจการเรียนของลูกมาก จะต้องถามลูกทุกๆวันว่า มีการบ้านจากโรงเรียนไหม วัดผลกันง่ายๆตอนรู้เรียน ป.1เราสอนการบ้านลูก แค่สอนเพิ่มเติมนิดหน่อยเด็กทำได้ โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเยอะ แต่พอมาขึ้น ป.2เด็กเปลี่ยน จากการบ้านที่เคยสอนง่ายๆกลับเป็นเข้าใจยาก ผู้ปกครองก็เอ๊ะใจ ว่าทำไมถึงทำการบ้านไม่ได้ เพราะมีพื้นฐานที่ดีจากชั้น ป.1แล้ว พอถามลูกว่าใครเป็นคุณครูประจำชั้นเด็กก็บอกว่า ครูอิ่ง เป็นภรรยาของ ผอ.โรงเรียน เลยถามว่าเขาสอนอะไรไหม ต่อวัน จะถามทุกๆวัน ตั้งแต่เปิดเทอมมา ก็ได้การบ้านวิชาคณิตศาสตร์ วิชาภาษาไทย แค่ครั้งเดียว เด็กบอกว่าคุณครูไม่ค่อยได้เข้าสอน มาสาย กลับเร็ว มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่เปิดเทอม ตนอยากจะถามว่า จะปล่อยให้เด็กเป็นแบบนี้หรือ และต้องมานั่งสอนการบ้าน ลูกเอง หรือต้องให้ครูสอน ทั้งๆที่วิชาความรู้ที่ได้มาจากครู ผู้ปกครองเพิ่มเติมนิดเดียว เด็กไปไม่ได้หรือจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ จนเด็กขึ้น ป.3 หรือ เด็กควรได้พื้นฐานความรู้ที่ดีตั้งแต่ ป.1มาเรียนชั้น ป.2คุณครูต้อง กระตุ้น ถึงจะสอนไม่เต็มที่ผู้ปกครองก็พอจะรับได้ พร้อมรับมาสอนต่อที่บ้านหลังเลิกเรียน มีพี่ ๆ ช่วยสอน ครูสอนที่โรงเรียน 70% กลับมาบ้าน ผู้ปกครองช่วยสอนการบ้าน30%ตนขอร้องเรียนว่า ทำไมครูประจำชั้นไม่สนใจสอนลูกตนและเด็กนักเรียนร่วมชั้น มันเพราะอะไร ซึ่ง ผอ.โรงเรียนก็รู้ดี เพราะไป มาด้วยกัน

นายต๋อย เสนาะสังข์ อดีต คนทำอาหารและถูกไล่ออก กล่าวว่า งบอาหารกลางวันของโรงเรียนวันละประมาณ3,600บาท แต่เห็นซื้อมาทำจริง ๆ ค่าอาหาร ประมาณ1,000กว่าบาท บางวันต้องมีผลไม้ ของหวานสลับ แต่ทุกวันนี้แทบไม่มี นานๆ มาจะมีครั้ง นานเป็นอาทิตย์ถึงจะมีบ้าง ซื้อวัตถุดิบเพื่อมาประกอบอาหารก็มาสาย ประมาณ10.00น. เด็กนักเรียนจะต้องรับประทานอาหารเวลา11.00น.
ด้าน นายเปโส ขบวนดี รองผู้อำนวยการ สพป.สุรินทร์ เขต1กล่าวว่า จากการที่ชาวบ้านได้ไปร้องเรียนที่เขตพื้นที่การประถมศึกษาสุรินทร์ เขต1ได้มีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว และได้มาเผชิญเหตุลงพื้นที่ ตรวจสอบที่โรงเรียนแล้ว และในวันนี้ก็ได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากชาวบ้านอีกบางส่วน ก็จะนำข้อเท็จจริงที่ได้รับ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง คาดจะได้ข้อสรุป ภายใน2-3สัปดาห์นี้ พยายามจะเร่งรัดให้เร็วที่สุดในการแก้ปัญหานี้