สงกรานต์-สงคราม

จากประสบการณ์ความรู้สึกและความเชื่อของผมจากการเดินทางไปในหลายประเทศรอบโลก ในประเทศที่พัฒนาแล้วการมีใครตายซักคนนึงจะเป็นเรื่องใหญ่ ขอยกตัวอย่างเช่น ประเทศอังกฤษ ความเมาของคนอังกฤษหรือแม้กระทั่งคนยุโรปก็ไม่ได้แพ้พี่ไทยเลยครับ
แต่พื้นฐานจิตใจนั้น แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เราสามารถพบพฤติกรรมการดื่มแล้วชกต่อยหน้าบาร์เป็นประจำ แต่สุดท้ายก็แยกย้ายกลับบ้านตื่นเช้ามาหายเมาก็ลืม แม้แต่ในวงการฟุตบอลก็มีแฟนบอลที่เราเรียกว่า "ฮูลิแกน" ถ้าจะตีกัน อย่างดี มีผลัก ตะโกนด่า ชกต่อย หนักสุดก็เก้าอี้ทุ่มกันจะมีมีดมาเสียบของกันเนี่ยนานนานจะเจอซักเคสหนึ่งซึ่งก็จะเป็นเรื่องใหญ่ออกไปทั่วโลก

โดยส่วนมาก เหตุการณ์เกิดขึ้นไม่นาน ก็จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุ โดยเฉพาะตามผับบาร์ ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่เหล่านั้นจะมาช้า นักดื่มเหล่านั้นก็ไม่ถึงกับควักมีด หรือ กลับบ้านเพื่อไป หยิบปืนมายิงกัน จะมีแต่คนคอยมาห้ามมิให้เรื่องบานปลายด้วยซ้ำไปด้วย
พูดสั้นสั้นว่า หากจะเอาเหล้าเข้ามาเป็นจำเลยในความรุนแรงที่เกิดขึ้น ก็ไม่น่าจะเป็นคำตอบสุดท้าย สั้นสั้นคือประเทศเขาเอาอยู่ กับเรื่องพวกนี้ ในขณะที่เขาไม่ใช่เมืองพุทธ แบบประเทศไทยนะทดไว้ก่อน
กลับมาที่ประเทศไทย คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ มีศีล 5 เป็นพื้นฐานการใช้ชีวิต ซึ่งอาจดูเป็นที่ที่ไม่ควรขายเหล้าแล้วด้วยซ้ำไป เพราะขัดกับศีลข้อ5 แต่เราก็ยังพบพฤติกรรมที่ขัดกับศีลอันเป็นพื้นฐานอยู่ได้เกือบทุกข้อคนไทยมีศีล 5 ฉันใด ก็สามารถมีพฤติกรรมขัดแย้งกับศีลใน 5 ข้อนั้นฉันนั้น
ตั้งแต่ ห้ามฆ่าสัตว์ตัดชีวิตก็มีการฆ่ากันทุกวันห้ามลักทรัพย์ก็ยังมีขโมยทุกวัน ห้ามประพฤติผิดในกาม ก็มีเมียน้อยมีกิ๊กกัน ห้ามโกหกก็โกหกจนชินคิดว่าเป็นเรื่องถูกต้อง ห้ามดื่มสุราเมรัย ก็ดื่มกันจนขาดสติ หลายกรณีก็เป็นข่าวฆ่ากันตายคาวงเหล้าก็มีอยู่ไม่น้อย
พอมาพิจารณาเรื่อง สงกรานต์สงคราม ดีดี เอาเฉพาะของปีนี้นะครับ ในช่วงเทศกาล เราได้เห็นข่าวความรุนแรงเกิดขึ้นเสมอ ไม่ว่าจะเป็น เล่นสงกรานต์สุดท้ายก็เมาแล้วตีกันเละ เอาขวดเหล้าโซดาขว้างใส่กัน พอมาขับรถกระบะเล่นน้ำสงกรานต์ก็มีการทำสงครามตีกันยิงกันกลางถนน หรือขนาดเทศกาลวันไหลบางแสนที่เพิ่งจะเริ่มหลังวันสงกรานต์มาได้ไม่นานก็เริ่มพบเหตุยิงกันแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะนี้พบได้แทบในทุกจังหวัด ยังไม่นับความรุนแรงในรูปแบบอื่นๆ ที่พบอีก

บางครั้งก็ไม่เกี่ยวข้องกับเหล้าเลย ไม่ว่าจะเป็นสามีกลับมาบ้านเห็นภรรยานั่งแต่งตัวโป๊ใช้ปืนสั้นยิงตายคาวงเหล้า ฝรั่งไม่พอใจที่ฉีดน้ำลูกตัวเองที่ไม่สบาย จึงขอร้องให้หยุดฉีดก็ยังฉีดอยู่ จึงได้ด่าทอคนที่ฉีดน้ำ สุดท้ายฝรั่งแก่ผู้เป็นพ่อก็ถูกชกนอนหลับสลบคาถนน
ข่าววัยรุ่นกระชากคนขับรถลงมากระทืบเพียงแค่ขับสวนเลน หรือกรณีของ น.ส.น้ำฝน ที่ขี่รถจักรยานยนต์ไปเล่นสงกรานต์ วันไหลบางแสน แล้วถูกลูกหลงกระสุนปริศนาเข้าที่ศรีษะ อาการโคม่า
มันเป็นเรื่องของไม่ใช่ ใช้มีด ใช้ไม้ ใช้มือชกต่อย ปัจจุบันนี้มันคือ "ปืน ปืน และ ปืน" เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนความเสื่อมถอยของมนุษย์ ท่ามกลางความเจริญก้าวหน้าทางวัตถุ อย่าโทษเพียงแค่ ปัจจัยภายนอกอย่าง เช่น เหล้า หรือ เทศกาล เลย
"เหล้า" หรือ "เทศกาล" ตามเจตนารมณ์เขามีไว้เพื่อความสุนทรี แต่ กับวัยรุ่นเลือดร้อนและเสพยาบ้า ความรุนแรงและความสูญเสียที่เกิดขึ้น มันจะตามมา โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล เอาเฉพาะแค่สงกรานต์นี้ ความรุนแรงในการเข่นฆ่าเอาชีวิตด้วยอาวุธปืน

ทำไมมันกลายเป็นเรื่องที่เราต้องอยู่กับมันให้ได้หรือไงครับ? มันเป็นเรื่องปกติจริงๆ หรอครับ?
ผมได้ถามเพื่อนผมเป็นชาวอเมริกันเล่นกลองอยู่ในประเทศไทยมา 30 ปีกับปัญหานี้เขาได้บอกว่า ไม่ต้องห่วงประเทศที่เจริญแล้วเป็นอย่างนี้ทุกประเทศ การยิงกันการฆ่ากันเป็นเรื่องปกติ แต่ผมกลับเห็นแย้ง
เพราะเนื่องจากประเทศอเมริกาแก๊งค์เวียดนามกับแก๊งค์จีน หรือเเก๊งค์อเมริกันผิวดำ ก็น่าจะมาจากเรื่องหักหลังกันหรือขายของผิดกฎหมายทับซ้อนในพื้นที่เดียวกัน คือเป็นเรื่องใหญ่โตเเย่งชิงผลประโยชน์มหาศาล จึงทำสงครามระหว่างแก๊ง
แต่ไม่ใช่แบบประเทศเราที่เเค่รถเฉี่ยวกันก็ลงมายิงกันได้ หรือเทศกาลสงกรานต์ แค่มองหน้ากันก็พร้อมที่จะระเบิดออกมาเป็นสงครามใส่กันได้ง่ายง่าย ผมว่าจุดนี้คือจุดที่แตกต่าง
อย่างที่ข้างต้นบอกไว้ว่า ที่ต่างประเทศก็เมาแต่แค่ปะทะกัน ตำรวจก็มาแล้ว นั่นหมายถึงสัญญาณเตือนว่า ประเทศของเราตำรวจคุมไม่อยู่ อัตราส่วนตำรวจหนึ่งคนต้องดูแลประชาชนจำนวนมากมายน่าจะมากกว่า 300 กว่าคน

จึงเป็นเรื่องยากในการควบคุมการดื่ม ควบคุมยาเสพติดที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็กเยาวชนของชาติเกิดความคึกคนองฮึกเหิมจนเป็นเหตุให้ทำร้ายร่างกายแบบง่ายง่ายเหมือนบ้านป่าเมืองเถื่อน
เราต้องอยู่กับมันให้ได้ใช่มั้ยครับ? หรือเราต้องควบคุม?
จุดนี้ผมตั้งข้อสังเกตว่า นักข่าวก็อ่านข่าวไป ตำรวจก็สืบสวนสอบสวนไปแต่ไม่เคยมีใครลุกขึ้นมาที่จะยับยั้งเรื่องเหล่านี้อย่างจริงจัง ไม่ใช่เพราะถ้าไม่มีเรื่องเหล่านี้ ก็ไม่มีรายการข่าว เรตติ้งจะตกหรือยังไง? ผมงง ?!ใครช่วยตอบที!!
จากปัญหาที่เกิดขึ้นพฤติกรรมและพื้นฐานจิตใจของคนเราต่างหากที่ต้องการการยกระดับอย่างที่สุด ตลอดจนพฤติกรรมของการดื่มที่ควรให้ความสำคัญ เรียกว่าต้องเข้ามาแก้ปัญหาเรื่องเหล่านี้กันแทบทุกกระทรวงทบวงกรม และหามาตราการที่เหมาะสมในการควบคุม

ทั้งนี้เข้าใจว่าจิตใจและพฤติกรรมเป็นเรื่องที่หาวิธีการควบคุมดูแลได้ยากกว่า การควบคุมเครื่องดื่มมากนัก ในที่นี้จะควบคุมอย่างไร เป็นประเด็นที่คู่ควรแก่การถกเถียงที่สุด เพราะหากคนสามารถควบคุมตนเองและพฤติกรรมการดื่มของตนเองได้ สงกรานต์นี้ก็คงจะเป็นสงกรานต์ที่มีความสุขของครอบครัว โดยไม่ต้องมีใครนั่งร้องไห้ให้กับการสูญเสียใดใดของครอบครัวตนเอง...ถึงแม้มันจะยาก แต่มันก็คุ้มค่า..
"ไม่เช่นนั้นอีกหน่อยเทศกาลใหญ่ใหญ่ในไทยนอกจากนับจำนวนผู้เสียชีวิตบนถนน ยังต้องมียอดผู้เสียชีวิตจากการถูกฆ่าโดยไร้เหตุผลกันด้วยหรือไม่"