สธ.สืบเส้นทางอสุจิ ด้าน สบส.ตรวจคลินิกอุ้มบุญแล้ว ไม่พบความผิด

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส.กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะกรมที่กำกับดูแลสถานพยาบาลเอกชน เข้าตรวจสอบคลินิกแห่งหนึ่งบนตึกสูงย่านเพลินจิตหลังจากถูกผู้ต้องหาชายไทย กล่าวอ้างถึงว่าเป็น 1 ใน 4 คลินิกใน กทม.ที่ไปรับถังไนโตรเจนบรรจุอสุจิ เพื่อรับจ้างขนข้ามไปฝั่งประเทศลาว หลังจากถูกจับที่ด่านพรหมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จังหวัดหนองคายนพ.ธงชัย กีรติหัตถากร รองอธิบดีกรม สบส. ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าตรวจสอบว่า คลินิคแห่งนี้ ดำเนินการถูกต้องตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธ์ทางการแพทย์ พ.ศ.2558 ทั้งนี้ ผู้ดำเนินการคลินิค หรือเจ้าของยืนยันว่าไม่รู้เห็นที่ถูกผู้ต้องหาที่จับ กล่าวอ้าง และคลินิคได้ดำเนินการแจ้งความกับผู้ต้องหารายนี้แล้วส่วนการตรวจสอบว่าคลินิคว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ สบส.ต้องรอสำนวนที่ถูกต้องชัดเจนจากจังหวัดหนองคายก่อน จึงจะสามารถตรวจสอบและดำเนินการตามกฏหมายได้เรื่องนี้ต้องแบ่งเป็น 3 ส่วน 1. ผู้นำพาซึ่งถูกจับกุม ถ้าสามารถพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่อยู่ในถังในไตรโนเจน เป็นไข่อสุจิหรือตัวอ่อน จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก
2.ต้องตรวจสอบว่ามีเอเจนซี่ เป็นคนกลางในการดำเนินการหรือไม่และมีการซื้อขายกันหรือไม่3. มีคลินิคเข้ามาเกี่ยวข้องในการนำส่งด้วยหรือไม่ ถ้า สบส.ได้รับข้อมูลและหลักฐานที่ชัดเจน ก็จะดำเนินการตามกฏหมายทันที

จากกรณี ที่เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรได้เข้าจับกุม นายนิธินนทน์ ศรีธานิยานันท์ อายุ 25 ปีอยู่บ้านเลขที่ 114 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร พร้อมของกลางถังไนโตรเจน 1 ถัง ภายในบรรจุหลอดใส่อสุจิ 6 หลอด ในข้อหาห้ามมิให้ผู้ใดซื้อเสนอซื้อ ขาย นำเข้า ส่งออก ซึ่งอสุจิ ไข่ หรือตัวอ่อน ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ.2558 และนำของต้องห้ามออกนอกราชอาณาจักร ตามพ.ร.บ.กรมศุลกากร สามารถจับกุมได้ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อ.เมืองหนองคาย เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา
ด้ายนายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากร หนองคาย เปิดเผยว่า การนำเข้าอสุจินั้นจำเป็นต้องมีใบสำแดงรายละเอียดคุณภาพของสินค้าด้วย ส่วนการนำเข้ามาจะผิด พ.ร.บ. กรมคุลกากรหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่าสินค้านั้นได้รับอนุญาตให้นำเข้าส่งออกหรือไม่ เช่นการนำเข้าส่งออกอสุจินั้น ต้องขออนุญาตกับหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรคก่อนเพราะการนำเข้าสิ้นค้าประเภทนี้จะมีเรื่องของโรคติดต่อ หรือโรคระบาดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหากขออนุญาตจะไม่ถือว่าผิด พ.ร.บ.กรมศุลกากร แต่หากไมได้รับอนุญาตจะผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทศโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ และ พ.ร.บ.กรมศุลกากรในข้อหานำสิ้นค้าต้องห้ามเข้ามา หรือส่งออกนอกราชอาณาจักร