นี่คือบทบาทแรก กับการคุมทีม จากที่ผ่านมา โชคทวี ซึ่งเขาอยู่ในฐานะมือขวาหรือเป็นสต๊าฟ ที่ช่วยงาน "โค้ชซิโก้ " เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เช่นเดียวกับ "โค้ชแม็ค" ใกล้รุ่ง ตรีจักร์สังข์ ที่เป็นมือซ้าย หลังฟุตบอลทีมชาติไทย จบภารกิจ ไม่ผ่านเข้ารอบ ที่จะได้สิทธิ เข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิก 2016 นั่นก็ทำให้ทุกคนซึ่งทำงานร่วมกันมา ต่างแยกย้ายไปตามเส้นทาง กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา " โค้ชโชค" ลาออกจากงานประจำ ในฐานะพนักงานของการประปาส่วนภูมิภาค ไปรับหน้าที่คุมทีมฟุตบอลในลีกโซนภาคอีสาน " ยักษ์แสด" อุดรธานี เอฟซี เป็นศัพท์ที่คนในวงการฟุตบอลเรียกมันว่า " แสวงหาความท้าทาย" นาทีนั้น ก่อนการไปรับงานกับอุดรธานี เอฟซี ชื่อเสียง ของ "โค้ชโชค" หอมหวนมาก มีทีมฟุตบอลหลายทีม ทั้งที่อยู่ในกรุงเทพฯและจังหวัดแถบภาคกลาง ทาบทามให้ "โค้ชโชค"ไปรับงาน เพราะเห็นถึงฝีมือกับการปลุกปั่น แต่เจ้าตัวก็ตัดสิน ใจ ที่จะเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปปักหลักอยู่อุดรธานี เหตุผลที่เขาบอกกับผม .... " มันคือการได้รับเกียรติ และทำให้กล้าที่จะเดิมพันอนาคตตัวเอง" "อุดรธานี เอฟซี " ชั่วโมงนั่น คือทีมใหญ่ พร้อมทั้งเงินทุน และมีความเหนียวแน่นของกองเชียร์ ที่มีส่วนผลักดันให้ทีมก้าวไปข้างหน้า และ" โค้ชโชค" ก็เลือกต้นสังกัด กับการคุมทีมฟุตบอลอาชีพทีมแรก ได้ลงตัว สิ่งที่เขาทุ่มเท ทำลงไปตลอดฤดูกาล ในลีกโซนภาคอีสานคือพา "อุดรธานี เอฟซี" เป็นแชมป์ของฟุตบอลโซนภาคอีสาน ได้สิทธิ ในการที่จะเข้าไปเล่นในรอบแชมเปี้ยนลีก หาทีมขึ้นดิวิชั่น 1 แต่เส้นทางของ "อุดรธานี เอฟซี" ก็สิ้นสุดลงในรอบนี้ เป็นความผิดหวัง ที่เกิดขึ้นเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันของ อุดรธานี เอฟซี ที่ไปไม่ถึงดิวิชั่น 1
ผลที่ตามมา(ในขณะนั้น) ก็คือการประกาศพักทีมของฝ่ายบริหาร สัญญาฉบับใหม่ของ"โค้ชโชค "กับ"อุดรธานี เอฟซี " ไม่มีการพูดถึง เป็นที่รับรู้ในที่สุดว่า ไม่มีการจ้างต่อ กลายเป็นความเคว้งคว้าง กับอนาคตตัวเอง และมันคือการปิดฉาก "เดิมพันชีวิต"สำหรับ"โค้ชโชค" ให้สิ้นสุดลง กับ"อุดรธานี เอฟซี" จากนี้ไป คือการที่จะต้องไปนับหนึ่งใหม่ ให้กับตัวเอง ของผู้ชายที่ชื่อ "โชคทวี พรหมรัตน์"