ย้อนรอย...เหตุก่อการร้าย! ใน "ฝรั่งเศส"

เหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้ เกิดขึ้นที่เมืองนีซ ที่อยู่ในแคว้น "พรอว็องซาลป์โกตดาซูร์" หรือ ริเวียร่า ทางตอนใต้ฝรั่งเศส เมื่อรถบรรทุกคันยาวสีขาวคันหนึ่ง วิ่งชนฝูงชนในที่ไปร่วมเฉลิมฉลองวันชาติของฝรั่งเศส (Bastille Day) เมื่อคืนวันที่ 14 กรกฎาคม ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 80 คน มีเด็กรวมอยู่ด้วย และบาดเจ็บกว่า 100 คน ในจำนวนสาหัส 18 คน ส่วนคนขับรถบรรทุกถูกตำรวจยิงเสียชีวิตหลังจากนั้น

ตำรวจระบุว่า คนร้ายลงมือช่วงการแสดงจุดพลุไฟ ซึ่งมีคนเข้าร่วมหลายพันคน และบางส่วนกำลังเดินไปบนถนนเลียบชายหาด "พรอมเมอนาร์ด เดส์ อังเกลส์" โดยการขับรถไล่ชนพร้อมกับยิงไปด้วยเป็นระยะทาง 2 ก.ม.คนที่ถูกรถชนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ศพเกลื่อนถนน ตำรวจได้เข้าควบคุมสถานการณ์ ด้วยการระดมยิงใส่คนร้าย จนหน้ารถบรรทุกพรุนไปด้วยรูกระสุน ส่วนคนร้ายเสียชีวิต หลังจากนั้น หน่วยต่อต้านการก่อการร้าย "RAID" ได้เข้าอารักขาเมือง และเตือนประชาชนให้อยู่แต่ภายในที่พักอาศัยและปิดล็อคประตูให้แน่นหนา

ในบรรดาคลิปที่ถูกนำมาเผยแพร่นั้น มีอยู่คลิปหนึ่งที่แสดงให้เห็นรถจักรยานยนต์คันหนึ่ง วิ่งตีคู่ไปกับรถบรรทุก เพื่อพยายามขัดขวางคนร้าย ก่อนที่รถบรรทุกจะเร่งความเร็วและวิ่งตะลุยเข้าใส่ฝูงชนจำนวนมาก และยังมีภาพที่ตำรวจวิ่งออกจากรถและระดมยิงคนร้าย ซึ่งหลังเกิดเหตุพบผู้คนจำนวนมาก นอนเรียงรายบนถนนเป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ขณะที่ผู้คนที่วิ่งหนีเอาชีวิตรอด มีทั้งส่งเสียงตะโกนและกรีดร้องหลากหลายภาษา

ขณะที่ผู้นำสหรัฐบอกว่า สหรัฐจะสนับสนุนและเป็นหุ้นส่วนกับฝรั่งเศส พันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐในช่วงที่ฝรั่งเศสตอบโต้และฟื้นตัวจากจากโจมตี

ทั้งยังเสริมอีกว่า สหรัฐรู้ดีว่า ลักษณะของประเทศฝรั่งเศสก็คือการอดทนต่อการสูญเสียทำนองนี้ และจะต่อสู้กับเหตุการณ์โศกฏนาฏกรรมและการสูญเสียนี้จนผ่านไปได้ ขณะที่ จอห์น เเครี่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้ให้สถานทูตสหรัฐในฝรั่งเศสพยายามติดตามจำนวนชาวอเมริกันพักที่อยู่ในเมืองนีซ เพื่อดูว่าชาวอเมริกันยังปลอดภัยดีหรือไม่
สรุปลำดับเหตุการณ์ก่อการร้ายในฝรั่งเศส7 ม.ค. 2558 มือปืนสองคนบุกยิงถล่มสำนักงานนิตยสารชาร์ลี เอบโด ในปารีส ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 12 รายและผู้บาดเจ็บ 11 ราย โดยมีนักเขียนการ์ตูน 8 รายและตำรวจ1 รายเสียชีวิต ส่วนคนร้ายที่ภักดีอัลไกด้าถูกยิงเสียชีวิต

9 ม.ค. 2558 มือปืนที่ภักดีไอเอสบุกจับตัวประกันในซูเปอร์มาร์เก็ตชาวยิว สังหารตัวประกัน 4 ราย ก่อนถูกตำรวจยิงเสียชีวิต

3 ก.พ.2558 คนร้ายแทงทหารนาย 3 นายบาดเจ็บที่ศูนย์นิคมชาวยิวในเมืองนีซ คนร้ายมีความคิดเกลียดชังฝรั่งเศส ตำรวจ กองทัพและชาวยิว

21 ส.ค. 2558 มือปืนเปิดฉากยิงบนรถไฟความเร็วสูงจากอัมสเตอร์ดัมไปปารีส แต่ผู้โดยสารชาวอเมริกัน อังกฤษ และฝรั่งเศสเข้าขัดขวางและจับตัวคนร้าย ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 4 คน รวมถึงคนร้าย

13 พ.ย. 2558 คนร้าย 9 คนร่วมก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายและยิงสังหารหลายจุดในปารีส ได้แก่ ระเบิดฆ่าตัวตาย 3 ครั้งที่สนามบินสตาด เดอ ฟรองซ์ เปิดฉากยิงที่ร้านอาหารและบาร์ และโรงละครบาตาคลอง ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 130 รายและผู้บาดเจ็บ 350 ราย ไอเอสอ้างลงมือก่อเหตุ

13 มิ.ย.2559 คนร้ายบุกบ้านตำรวจใช้มีดแทงตำรวจตาย และฆ่าปาดคอภรรยา ต่อหน้าลูกชายของพวกเขาที่เมืองแมกนองวีล และยังใช้เฟซบุ๊คไลฟ์ถ่ายทอดจากจุดเกิดเหตุอ้างลงมือฆ่าในนามกลุ่มไอเอส

การใช้รถเป็นอาวุธโจมตีเมืองนีซของฝรั่งเศส ไม่ใช้กลยุทธ์ใหม่ของผู้ก่อการร้าย และเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง รวมทั้งที่อังกฤษและแคนาดา

- การนำรถบรรทุกมาใช้เป็นอาวุธในการก่อการร้าย แบบ "ง่ายแต่อันตราย" ดังที่คนร้ายขับบรรทุกขนาด 25 ตัน พุ่งตะลุยเข้าใส่ฝูงชนที่เมืองนีซ เป็นกลยุทธ์ของผู้ก่อการร้ายที่ข่าวกรองตะวันตกทราบมาเป็นอย่างดี- ในรอบไม่กี่ปีมานี้ ตะวันตกต้องรับมือการโจมตีลักษณะเดียวกันมาแล้ว 3 ครั้ง ที่อังกฤษ 2 ครั้ง ที่แคนาดาอีก 1 ครั้ง

- เมื่อพฤษภาคม ปี 2556 คนร้ายสองคนขับรถยนต์พุ่งชน ลี ริกบี ทหารอังกฤษ ก่อนลงมาพยายามใช้มีดบั่นคอเหยื่ออย่างสยดสยองบนถนนกลางกรุงลอนดอน กลางวันแสกๆ ทั้งคู่เป็นคนเชื้อสายไนจีเรีย อ้างว่าต้องการสังหารทหารวัย 25 ปี เพื่อล้างแค้นที่กองทัพอังกฤษเข่นฆ่าชาวมุสลิม- อีก 18 เดือนต่อมา ชายคนหนึ่งที่อ้างว่าลงมือในนามของกลุ่มสุดโต่ง ขับรถแล่นทับและสังหารทหารแคนาดา แพททริค วินเซนต์ และทำให้ชายอีกคนได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุ ชายวัย 25 ชื่อ มาแตง กูตูร์ รูโล โทรเข้าเบอร์แจ้งเหตุของตำรวจว่าเป็นการโจมตีเพื่อเป้าหมายญีฮัด- เดือนมิถุนายน ปี 2550 ชายสองคนขับรถจี๊ปที่มีไฟลุกไหม้ พุ่งใส่อาคารผู้โดยสารสนามบินนานาชาติกลาสโกลว์ ในสก็อตแลนด์ หนึ่งในสองผู้ก่อเหตุ ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต โดยผู้พิพากษาระบุว่าเขาเป็นพวกสุดโต่งทางศาสนาหลายปีมานี้ กลุ่มสุดโต่งไม่ว่าจะเป็นอัลไกดา และไอเอส พยายามชักชวนผ่านคลิปวิดีโอและแอปพลิเคชั่นส่งข้อความ ให้เหล่าสาวกลงมือโจมตีโดยใช้อาวุธอะไรก็ได้ที่มีหรือนึกได้ โดยเฉพาะเมื่อกันยายน 2557 นายอาบู โมฮัมหมัด อัล-อัดดานี โฆษกไอเอสที่สำนักข่าวกรองตะวันตก ตั้งฉายาว่าเป็นรัฐมนตรีฝ่ายโจมตีของกลุ่ม ได้ออกคำแนะนำแบบละเอียดและน่าสะพรึงกลัว ว่ามีหลายวิธีที่ใช้เล่นงานศัตรูได้ และโดยไม่ต้องคำนึงว่าจะเป็นทหารหรือพลเรือนเพราะถือว่าเป็นศัตรูนอกศาสนาทั้งหมด หลายเหตุการณ์ที่ตามมาหลังจากนั้น สะท้อนว่าเป็นการทำตามคู่มือนี้