เวลาไปท่องเที่ยว แต่ละคนคงมีสไตล์เป็นของตัวเอง บางคนชอบแบบเร็วๆ เน้นปริมาณ ไปหลายๆ ที่ในระยะเวลาไม่กี่วัน บางคนชอบแบบไม่เร่งรีบ เน้นซึมซับไปกับบรรยากาศ สัมผัสวิถีสโลว์ไลฟ์ ซึ่งไม่ว่าจะแบบไหนก็ช่วยเพิ่มความสุข แถมยังได้สร้างความทรงจำที่มีค่า
ในส่วนของ การท่องเที่ยวแบบไม่เร่งรีบ หรือ Slow Travel เป็นหนึ่งในเทรนด์การท่องเที่ยวที่ผู้คนพูดถึงกันมากในช่วงที่ผ่านมา "อโกด้า" (Agoda) แพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับการท่องเที่ยว จึงมาแนะนำจุดหมายปลายทางยอดนิยมในทวีปเอเชียสำหรับการท่องเที่ยวแบบไม่เร่งรีบ ใช้เวลาในจุดหมายปลายทางมากขึ้น โดย "เขาหลัก" ของไทย ครองอันดับ 1 จุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวอยู่เที่ยวนานที่สุด
อ้างอิงข้อมูลจาก Google Trends พบว่าการค้นหาเกี่ยวกับ Slow Travel เพิ่มขึ้นสามเท่าในช่วงห้าปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแบบไม่เร่งรีบเป็นวิธีท่องเที่ยวที่สนับสนุนให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาทำความรู้จักสถานที่ท่องเที่ยว รวมไปถึงผู้คน และวัฒนธรรมในจุดหมายปลายทางที่ไปมากขึ้น เพื่อการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีความหมาย น่าจดจำยิ่งขึ้น
เผย 8 จุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวอยู่เที่ยวนานที่สุด
จาก 8 ประเทศ ในทวีปเอเชีย จุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวอยู่เที่ยวนานที่สุด ได้แก่ เขาหลัก (ไทย), โซล (เกาหลีใต้), หมู่เกาะเปอร์เฮนเทียน (มาเลเซีย), โตเกียว (ญี่ปุ่น), เกาะเซียร์เกา (ฟิลิปปินส์), เปกันบารู (อินโดนีเซีย), โฮจิมินห์ ซิตี้ (เวียดนาม) และอาเมดาบัด (อินเดีย) ตามลำดับ อโกด้ารวบรวมข้อมูลการจองบนแพลตฟอร์มของอโกด้าในช่วง 3 เดือนแรก ของปี 2567 แล้วจึงนำมาวิเคราะห์เพื่อจัดอันดับ
ซึ่งในไทย เขาหลัก ติดอันดับ 1 จุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวอยู่เที่ยวนานติดกันหลายวันที่สุดโดยเฉลี่ย ตามมาด้วยพัทยาและเกาะช้าง ตามลำดับ เมื่อมองที่การท่องเที่ยวต่างประเทศ แองเจเลส / คลาร์ก (ฟิลิปปินส์) เป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ที่นักท่องเที่ยวชาวไทยอยู่เที่ยวนานติดกันหลายวันที่สุดโดยเฉลี่ย
อโกด้า ระบุว่า เขาหลัก สวรรค์แห่งการเล่นเซิร์ฟ เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวแบบไม่เร่งรีบที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในทวีปเอเชีย ชายหาดและสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่งที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักในเขาหลักนั้นสวยงามมาก เหมาะที่จะไปพักผ่อนคลายเครียด ตกเย็นบริเวณถนนเพชรเกษมก็มีร้านอาหาร และบาร์หลายร้านให้ไปกินดื่ม เพลิดเพลินกับดนตรีไทยพื้นบ้านสด หรือแม้แต่เล่นสนุ๊กเกอร์กับคนในพื้นที่
มนต์เสน่ห์ "หาดเขาหลัก"
หาดเขาหลัก ตั้งอยู่ในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติเขาหลัก-ลำรู่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เป็นชายหาดที่เหมาะแก่การพักผ่อน พร้อมด้วยทิวทัศน์สวยงาม และความร่มรื่นจากต้นสนที่เรียงรายไปตามแนวชายหาด
นอกจากนี้ หาดทรายที่ขาวละเอียด และน้ำทะเลใส ประกอบกับหาดหิน ก้อนเล็กก ก้อนใหญ่ วางเรียงรายอย่างสวยงาม ยิ่งทำให้ผู้มาเยือนสามารถเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติของที่นี่ได้อย่างฟินสุด
สวรรค์แห่งการเล่นเซิร์ฟ
อย่างที่ "อโกด้า" บอกไว้ เขาหลักเป็น "สวรรค์แห่งการเล่นเซิร์ฟ" ซึ่งคลื่นทะเลของที่แห่งนี้ มีระดับความสูงพอดี จึงเหมาะแก่การฝึกโต้คลื่น และผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเซิร์ฟนั่นเอง
ประภาคารเขาหลัก
หนึ่งในจุดเช็กอินของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลย่านเขาหลัก หากใครได้มาเยือนไม่ควรพลาด โดยหอประภาคารนี้สร้างขึ้นหลังจากเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2547 ไว้สำหรับเตือนภัยทางทะเล ปัจจุบันได้กลายเป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมวิวในช่วงยามเย็น เพื่อรอพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าลงในทะเลอันดามัน และภาพของสีสันแสงสุดท้ายรับกับคลื่นซัดเข้าหาชายฝั่ง ก็เป็นภาพที่สุดสวยงาม
หาดทรายสีดำ
ที่หาดนางทอง หนึ่งในชายหาดที่สวยงามในแหล่งท่องเที่ยวย่านเขาหลัก มีลักษณะต่างไปจากชายหาดอื่นๆ เพราะทรายบนชายหาดเป็นสีดำละเอียด ซึ่งจะจำนวนมากในช่วงวันที่น้ำทะเลหนุนสูง เมื่อน้ำลดลงต่ำสุดก็จะมองเห็นหาดทรายสีดำเป็นบริเวณกว้าง ทำให้ได้รับการขนานนามว่า "หาดทรายสีดำ"
โดยทรายสีดำดังกล่าว คือ "แร่ดีบุก" ที่มีอยู่มากในทะเลตลอดแนวชายหาดใน อ.ตะกั่วป่า ซึ่งในอดีตจะมีอุตสาหกรรมทำเหมืองแร่ในทะเลจำนวนมากจนปรากฏอยู่ในคำขวัญของจังหวัดพังงาว่า "แร่หมื่นล้าน" หาดทรายแห่งนี้จะมีคลื่นซัดแร่ดีบุกขึ้นมา ชาวบ้านจะตักมากองรวมกันก่อนจะนำใส่รางและล้างน้ำเพื่อแยกเอาทรายทะเลที่มีน้ำหนักเบากว่าออกให้เหลือเพียงแต่สีดำ ก่อนจะนำไปแยกเอาแร่ดีบุกออกมาขายอีกที
แม้จังหวัดพังงาจะเปลี่ยนผ่านจากยุคเหมืองแร่ เข้าสู่ยุคท่องเที่ยว แต่คลื่นทะเลตามธรรมชาติก็ยังคงซัดเอาแร่ขึ้นบนชายหาดดังกล่าวอยู่เป็นระยะ และดึงกลับลงไปในทะเล สลับกันไปมาอยู่เรื่อยๆ จนกลายเป็นเรื่องแปลก เพราะมีเพียงแค่จุดเดียว ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในแหล่งท่องเที่ยวเขาหลักไม่พลาดที่จะต้องแวะมาสัมผัสกับทรายสีดำบนชายหาดแห่งนี้
ศาลเจ้าพ่อเขาหลัก
ฝั่งตรงข้ามของชายทะเลเขาหลัก เป็น "ศาลเจ้าพ่อเขาหลัก" ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของคนทั่วไป โดยบริเวณนี้ยังมีรอยเท้าที่จารึกบนแผ่นหินอยู่ใต้ต้นไทร รวมถึง มีจุดชมวิวในบริเวณแหลมเขาหลัก และเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติไปหาดเล็ก ระยะทาง 2 กิโลเมตร ด้วย
ช่วงที่เหมาะในการมาท่องเที่ยวเขาหลัก
ที่นี่มีเพียง 2 ฤดู คือ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนเมษายน ส่วนฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึงเดือนธันวาคม โดยจะมีฝนตกชุก ช่วงระยะเวลาที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว คือ ช่วงตั้งเเต่ปลายธันวาคมถึงเมษายนของทุกปี
ขอบคุณข้อมูลจาก :
bangkokbiznews.com
travel.trueid.net
องค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา
สำนักอุทยานแห่งชาติ