นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI) เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้ากับ Nation STORY ว่า วันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ 1.75 แสนรายพร้อมกับอัตราการว่างงานที่ 3.9% แย่กว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 2.38 แสนรายและ 3.8% ตามลำดับ
ขณะที่รายงาน ISM ภาคบริการที่ 49.4 แย่กว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 52 สะท้อนถึงการอ่อนแรงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเราได้ตั้งข้อสังเกตไว้แล้วในช่วงประชุม FED ว่าบางที FED อาจเห็นสัญญาณบางอย่างจึงทำนโยบาย QT ที่ลดลง
ทั้งนี้ภายหลังจากทราบข้อมูลข้างต้น CME FED Watch ดูมั่นใจมากขึ้นว่าการปรับลดดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนด้วยความน่าจะเป็น 48.7% (ลด 0.25%) โดย Sector ที่ Outperform เมื่อคืนของสหรัฐฯได้แก่ Tech (+3%) พร้อมกับการปรับลงของ US Bond Yield ทั้งรุ่นอายุ 2 และ 10 ปี สะท้อนถึงการคลายกังวลจากดอกเบี้ยของนักลงทุนซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทยรวมถึงทิศทางค่าเงินบาท
ส่วนภายในประเทศกระทรวงพาณิชย์รายงานเงินเฟ้อประจำเดือน เม.ย. ขยายตัว 0.2%YoY นับเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 7 เดือน สาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับสูงขึ้น และราคาสินค้าเกษตรปรับตัวขึ้นเพราะผลผลิตลดลงเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อน
อย่างไรก็ตามราคาสินค้าบางประเภทปรับลง อาทิ ค่ากระแสไฟฟ้า น้ำมันดีเซล ผงซักฟอก ด้วยเงินเฟ้อที่กำลังปรับขึ้นก็เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยส่งต่อไปยังการคงดอกเบี้ยต่อเนื่องของธนาคารแห่งประเทศไทย หรืออย่างน้อยคงจนกว่าจะเห็น FED เริ่มปรับดอกเบี้ยมองเป็นบวกกับกลุ่มธนาคารพาณิชย์
ส่วนปัจจัยอื่นๆในสัปดาห์นี้รอติดตามผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 1Q24 เพราะตัวเลขเศรษฐกิจไม่มีตัวเลขที่มีนัยยะสำคัญ สัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1,360 – 1,400 จุด เชิงกลยุทธ์การลงทุนมองระดับดัชนีปัจจุบันเป็นโอกาสสะสม ด้วยระดับ Valuation ที่น่าสนใจ
พร้อมกับปัจจัยบวกจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินของ FED และเศรษฐกิจไทย จะฟื้นตัวในครึ่งปีหลังเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดหุ้น แนะนำสะสมในกลุ่ม Domestic Play อาทิ
- ค้าปลีก (BJC ,CRC ,CPALL, HMPRO)
- ธนาคารพาณิชย์ (BBL, KBANK, KTB, SCB)
- การเงิน (MTC ,SAWAD, TIDLOR)
- ท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, MINT)
- ศูนย์การค้า (CPN)
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ระบุว่า คาด SET ปรับตัวขึ้น ด้วยแรงหนุนความหวังของตลาดที่มองว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนเม.ย. ออกมาต่ำกว่าคาดมาก โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1,380 และ 1,385 จุด ตามลำดับ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,363 และ 1,355 จุด ตามลำดับ
หุ้นเด่นวันนี้แนะนำ
- TRUE (ราคาเป้าหมาย 10 บ.) มองมี story เกี่ยวกับผลประกอบการที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยผลการดำเนินงาน 1Q67 มีกำไรปกติเป็นบวกไตรมาสแรก 802 ลบ. หลังจากควบรวมกิจการและเร็วกว่าที่คาดไว้ ขณะที่ 2Q67 คาดกำไรปกติจะเติบโตต่อ QoQ และ YoY ซึ่งคาดจะผลักดันให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
- OR (ราคาเป้าหมาย 27 บ.) 1Q67 คาดกำไรปรับขึ้นแรง QoQ สู่ระดับ 3.5 พันลบ. จากกำไรขั้นต้น/ลิตรระดับสูงของกลุ่มธุรกิจ Mobility และไม่มีขาดทุนจาก Fx ส่วน 2Q67 คาดกำไรจะดีขึ้นต่อเนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดในประเทศไทย และปี 2567 คาดกำไรสุทธิจะเติบโต 16%YoY สู่ 1.33 หมื่นลบ. อีกทั้งซื้อขายที่ PER 67F ที่ 16 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีที่ 27 เท่า