น.ส. รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยกับ Nation STORY ว่า เงินบาทสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นช่วงหลังสงกรานต์เคลื่อนไหวในกรอบ 36.30-37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
โดยปัจจัยที่ต้องตามคือ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล หรือบอนด์ยีลด์ของสหรัฐฯ การคาดการณ์ดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐหรือ เฟด และค่าเงินหยวนของจีนเป็นสำคัญ ขณะที่ตลาดทบทวนมุมมองหลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ สูงเกินคาดเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งตลาดคาดว่ามีโอกาสสูงขึ้นที่เฟดจะเลื่อนการลดดอกเบี้ยครั้งแรกออกไปเป็นไตรมาส 3 ของปีนี้
สำหรับการเคลื่อนไหวของสกุลเงินในภูมิภาคช่วง 1 เม.ย.-11 เม.ย. พบว่า สกุลเงินส่วนใหญ่อ่อนค่า นำโดยวอน-เกาหลีใต้ 1.22% รองลงมาเป็นดอง-เวียดนาม 0.82% บาท-ไทย 0.63% ดอลลาร์-ไต้หวัน 0.62% ริงกิต-มาเล เซีย 0.48 % เปโซ-ฟิลิปปินส์ 0.47% ดอลลาร์-สิงคโปร์ 0.27% หยวน-จีน 0.19% ยกเว้น รูปี-อินเดียแข็งค่า 0.25% รูเปียห์-อินโดนีเซีย 0.06%
สาเหตุการอ่อนค่าของเงินบาทมาจาก
ส่วนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายได้ แต่ต้องรอดูประสิทธิผล ความคุ้มค่าของการใช้งบประมาณต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร