svasdssvasds
เนชั่นทีวี

คอลัมนิสต์

เขากระโดงส่งด่วน “พล.ท.อดุลย์” ขุนศึก “ตาควาย” นั่งกลาโหม คานเด็กลุง

แม่ทัพผู้พิชิตตาควาย “พล.ท.อดุลย์” บ้านใหญ่ค่ายเขากระโดง นั่ง รมช.กลาโหม ประกับ พล.อ.ณัฐพล เด็กลุง

16 กันยายน 2568 ค่ายเขากระโดงส่งด่วน พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ นั่ง รมช.กลาโหม ประกบ พล.อ.ณัฐพล สนามไชย 1 ตามคำขอรัฐพันลึก

เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ 3 ขุนศึก ตท.26 ยึดครองเก้าอี้แม่ทัพภาคที่ 2 แบบไร้รอยต่อ จาก อดุลย์ บุญสิน และวีระยุทธ์

เนื่องจาก “อนุทิน 1” เป็นรัฐบาลเฉพาะกาลเพื่อการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ จึงมีการจัดสรรโควตามให้แก่ “คนนอก” พอประมาณ

อย่างกระทรวงกลาโหม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ สนามไชย 2 รัฐบาลแพทองธาร ก็ได้ขยับเป็นสนามไชย 1 รัฐบาลอนุทิน ตามคำร้องขอของลุงๆ ในรัฐพันลึก

ดูเหมือนจะลงตัว แต่ไม่จบ เมื่อ “ค่ายเขากระโดง” ส่งด่วน พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 เข้ามาเป็น รมช.กลาโหม ประกบ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล ซึ่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากอินฟลูฯการเมืองจำนวนมาก ในประเด็นท่าทีไม่ทันเกมฝ่ายกัมพูชา 

 

พล.ท.อดุลย์ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 26 จปร.รุ่นที่ 37 รุ่นเดียวกับ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และ พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ ว่าที่แม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่

การที่ “แม่ทัพดุลย์” เป็นเพื่อนนักศึกษา วปอ.61 รุ่นเดียวกับ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีนั้น ยังไม่หนักแน่นเท่ากับ พล.ท.อดุลย์ เติบโตมาในร่มเงา “ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก” บ้านเขากระโดง ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์

พล.ท.อดุลย์ จึงคุ้นเคยกับบ้านใหญ่ “ชิดชอบ” มาตั้งแต่สมัยเป็นผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 23 (ผบ.ร.23 พัน 4) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ค่ายเขากระโดง”

ปลายเดือน ก.ย.2567 พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ส่งไม้ต่อให้ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง เป็นแม่ทัพภาคที่ 2 คนที่ 2 ของ ตท.26

ปลายเดือนนี้ พล.ท.วีระยุทธ ก็จะรับไม้ต่อจาก พล.ท.บุญสิน เป็นแม่ทัพภาคที่ 2 คนที่ 3 ของ ตท.26 เปิดหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ “แม่ทัพอีสาน” ที่มาจากรุ่นเดียวกัน 3 สมัยรวด 

พล.ท.อดุลย์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ผู้หวนคืนสนามรบไทย-กัมพูชาอีกครั้ง

 

ไม่ใช่แม่ทัพลูกอีสาน
 

พล.ท.อดุลย์ เป็นครอบครัวทหาร เกิดในค่ายจักรพงษ์ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เมื่อจบโรงเรียนนายร้อย จปร. ก็เดินทางมารับราชการที่หน่วยทหาร จ.บุรีรัมย์มาตลอด

นั่นคือ กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 23 (ร.23 พัน 4) ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ไล่มาตั้งแต่ผู้บังคับหมวด ผู้บังคับกองร้อย ก่อนจะขึ้นเป็น ผบ.ร.23 พัน 4

ยุคเวียดนามรบเขมร 3 ฝ่าย “แม่ทัพดุลย์” เป็นผู้บังคับกองร้อยทหารราบที่ 2342 รับผิดชอบ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์

ปี 2550-2551 เขาเคยลงไปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 ในพื้นที่ อ.หนองจิก อ.โคกโพธิ์ และ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี อยู่ในพื้นที่สีแดง

หลังเกษียณอายุราชการ พล.ท.อดุลย์ ได้เข้ารับตำแหน่งที่ปรึกษามูลนิธิชัยพัฒนา ทำงานร่วมกับหม่อมราชวงศ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักกิจการพิเศษ มูลนิธิชัยพัฒนาในโครงการทหารพันธุ์ดี ของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23

นอกจากนี้ พล.ท.อดุลย์ ยังได้เข้าทำกิจกรรมร่วมกับสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และอีเวนท์ด้านการกีฬาระดับนานาชาติ ที่ดำเนินการโดย เนวิน ชิดชอบ 

พล.ท.อดุลย์ ในวันที่นำนักรบชุดดำ ชิงปราสาทตาควาย ปี 54

 

ศึกชิงปราสาทตาควาย
 

พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นสุดยอดนักรบอีสานใต้ตัวจริง เคยนำทัพทหารบุรีรัมย์สู้ศึกเขาพระวิหาร และเป็น ผบ.นักรบดำ (ทหารพราน) ปกป้องอธิปไตยในสมรภูมิตาควายและตาเมือนธม

ช่วงการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ปี 2551-2552 พล.ท.อดุลย์ เป็นผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 234 นำทหารเข้าสู้รบในพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหาร

ปี 2554 “แม่ทัพดุลย์” สวมบทนักรบชุดดำ เป็นผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ คุมพื้นที่แนวชายแดนด้านสุรินทร์-บุรีรัมย์

สมรภูมิรบที่ “นักรบชุดดำ” ภายใต้การบังคับบัญชาจะต้องจดจำไปตลอดชีวิตคือ สงคราม 12 วัน ที่ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย

“แม่ทัพดุลย์” รับผิดชอบการรบช่วงชิงปราสาทตาควาย ได้วางแผนร่วมกับกำลังในแนวหน้า ทำการรบในระยะประชิด ทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งการสู้รบครั้งนั้น ส่งผลให้ทหารกัมพูชาสูญเสียเป็นจำนวนมาก

สุดท้าย พล.ท.เจียมอน พล.ท.สะรัยดึ๊ก และฮุน มาเนต ต้องเปิดการเจรจาขอหยุดยิง ปิดฉากสงครามไทย-กัมพูชาเมื่อปี 2554