ศึกในอก “สมรังสี” สุมไฟบ้านหนองจาน “ฮุนเซน” สกัดฝ่ายแค้นป่วนชายแดน

ศึกในอกเขมร 2 ขั้ว สมรังสี จุดไฟบ้านหนองจาน ฮุนเซน สั่งจับนักข่าวปั่นคลั่งชาติ เตียเซ็ยฮาปฏิเสธเล่นเกมโล่มนุษย์

บ้านหนองจาน ตำนานค่ายเขมรอพยพ ไทยเป็นม้าอารี ยุคแปรสนามรบเป็นสนามการค้า เขมรฉวยโอกาสยึดครองยาวกว่า 30 ปี

ปฏิบัติการรื้อลวดหนามที่บ้านหนองจาน ไม่ได้ปั่นป่วนแค่ฝั่งไทย ทางฝั่งกัมพูชาก็เกิดศึกภายใน สมเด็จฮุน เซน ปะทะ สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้าน

กรณีชาวบ้านโจกเจี่ย(โชคชัย) อ.โอโจรว จ.บันเตียเมียนเจย รวมตัวกันรื้อลวดหนามที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2568

ฝ่ายความมั่นคงกัมพูชาเชื่อว่า ได้มีอินฟลูเอนเซอร์ชาวกัมพูชาและนักข่าวออนไลน์ ปลุกระดมชาวเขมรเผชิญหน้าทหารไทย ทำการรื้อลวดหนาม เนื่องจากมีการไลฟ์เหตุการณ์บ้านหนองจาน แชร์ผ่านเพจของอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านเขมรที่อาศัยอยู่ในต่างแดน

เช้าวันเดียวกันนั้น สม รังสี อดีตผู้นำพรรค CNRP ได้โพสต์ข้อความว่า
 

“เราเสียทั้งแผ่นดิน เสียทั้งปราสาท แต่รัฐบาลกัมพูชากลับไม่กล้าประกาศความจริงให้ประชาชนกัมพูชารับรู้ กลับอวดอ้างว่าตัวเองชนะเสียอีก”
 

ตลอดทั้งวัน พร พันนา นักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลฮุนเซน ได้โพสต์คลิปชาวบ้านถือไม้ไล่ตีทหารไทย และทำการรื้อลวดหนามต่อเนื่อง 



วันที่ 26 ส.ค.นี้ ชาวบ้านรวมตัวกันอีกครั้ง พร้อมอินฟลูฯ และนักข่าวเตรียมชุมนุมเผชิญหน้ากับกลุ่มคนไทยรักชาติที่นำโดย เจ๊เอ๋ สระบุรี

สมเด็จฮุน เซน จึงสั่งการให้ โอม ราไต ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย เข้าคุมสถานการณ์ในพื้นที่บ้านโจกเจี่ย ตรงข้ามบ้านหนองจาน

ผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจย ได้สั่งอินฟลูฯ คนหนึ่ง ที่ไลฟ์การชุมนุมของชาวบ้านให้หยุดโดยทันที เพราะกลัวว่า จะมีการปะทะกันของมวลชน 2 ประเทศ

หลังจากนั้น ตำรวจบันเตียเมียนเจย ได้ทำการจับกุม Meas Sara นักข่าวออนไลน์ที่ปักหลักไลฟ์เหตุการณ์ชาวบ้านรื้อลวดหนาม โดยก่อนหน้านั้น ทางการกัมพูชาได้มีคำสั่งถอดถอนใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพข่าวไปแล้ว

จุดเสี่ยงบ้านหนองจาน
 

ตำนาน “บ้านหนองจาน” และชุมชนชาวเขมร มีความเป็นมายาวนาน ตั้งแต่ยุคเขมรแดง เขมร 4 ฝ่าย จนมาถึงยุคแปรสนามรบเป็นสนามการค้า

เดิมทีบ้านหนองจาน บ้านโนนหมากมุ่น อยู่ในการปกครองของ อ.ตาพระยา จ.ปราจีนบุรี อยู่ตรงข้าม อ.โอโจรว จ.บันเตียเมียนเจย

ปี 2518 เขมรแดง ยึดครองกัมพูชา ก็มีคนเขมรที่กลัวคอมมิวนิสต์อพยพมาขอลี้ภัยในไทย โดยอาศัยอยู่ตามแนวชายแดน

ปี 2522  เขมรเฮงสำริน (ฮุนเซน) และกองทัพเวียดนามโค่นเขมรแดง จึงมีคนเขมรอพยพเข้าไทยจำนวนมาก

รัฐบาลเกรียงศักดิ์ จึงอนุญาตให้ UNHCR ตั้งศูนย์อพยพชั่วคราวเพื่อมนุษยธรรมที่บ้านหนองจาน และบ้านโนนหมากมุ่น

ช่วงปี 2523-2532 เขมร 3 ฝ่ายคือ เขมรสีหนุ เขมรเสรี และเขมรแดง ได้ทำการสู้รบกับ เขมรเฮงสำริน-เวียดนาม จึงทำให้บ้านหนองจาน และบ้านโนนหมากมุ่น กลายเป็นสมรภูมิรบอยู่หลายครั้ง

เมื่อเขมร 3 ฝ่ายกับ เขมรเฮงสำริน เจรจายุติสงครามกลางเมือง ทางรัฐบาลไทยมีนโยบายแปรสนามรบเป็นสนามการค้า ชาวเขมรส่วนใหญ่ทยอยกลับคืนบ้านเกิด แต่ชาวเขมรจำนวนหนึ่งยังปักหลักทำกินอยู่ที่บ้านหนองจานจนมาถึงทุกวันนี้
 

เบรกฝ่ายค้านปั่นคลั่งชาติ
 

ศูนย์อำนาจกัมพูชาค่อนข้างเชื่อว่า มีการสร้างสถานการณ์ที่บ้านหนองจาน โดยอินฟลูฯ และนักข่าวออนไลน์ ที่มีความเชื่อมโยงกับอดีตพรรคฝ่ายค้าน

สมเด็จฮุน เซน กำลังเจอสงครามข่าวสารจากอดีตฝ่ายค้าน โดยมีการด้อยค่าอดีตผู้นำกัมพูชาว่า ไม่เข้มแข็ง ปล่อยให้ไทยรุกล้ำดินแดน ยึดปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย

พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหม ได้โพสต์เฟซบุ๊คว่า ไม่มีผู้นำคนใดที่นำประชาชนมาใช้เป็นเกราะ หรือเป็นเครื่องต่อรองเพื่อปกป้องผลประโยชน์ส่วนตัว เหมือนผู้นำทรยศชาติบางกลุ่มที่อยู่อย่างสุขสบายในต่างประเทศ

ทายาท เตีย บัญ ได้ชี้เป้าไปที่ “ผู้นำทรยศชาติบางกลุ่มที่อยู่อย่างสุขสบายในต่างประเทศ” ซึ่งหมายถึง สม รังสี นั่นเอง

พล.อ.เตีย เซ็ยฮา ย้ำว่า “ประชาชนกัมพูชามีวุฒิภาวะ ไม่ควรนำประเทศเข้าสู่วงจรสงครามเหมือนในอดีตอีกต่อไป”

ดูเหมือนว่า กลุ่มผู้กุมอำนาจในพนมเปญ จะอ่อนไหวกับประเด็น “โล่มนุษย์” และการสร้างสถานการณ์ป่วนชายแดนของฝ่ายแค้น